ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม นั้นมีหลายอย่างมาก เนื่องจากเบอร์รี่หลายชนิดมีประโยชน์มาก ทั้งในเรื่องของวิตามินที่สูง ยังมีในเรื่องของการช่วยในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย ทั้งในด้านสายตา ดังนั้นวันนี้เรานั้นได้รวบรวมเบอร์ที่ฮิตและประโยชน์เยอะมาฝากอกด้วย
เบอร์รี่ 9 ชนิด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม มีอะไรบ้าง
1.บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีม่วงเข้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- บำรุงสายตา บลูเบอร์รี่มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
- บำรุงสมอง สารแอนโธไซยานินในบลูเบอร์รี่ ยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
- ต้านอนุมูลอิสระ บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- ป้องกันโรคหัวใจ บลูเบอร์รี่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เพิ่มระดับไขมันดี HDL ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บลูเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในบลูเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ย่อยอาหาร บลูเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
- ควบคุมน้ำหนัก บลูเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงกระดูก บลูเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- บำรุงเลือด บลูเบอร์รี่มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันภาวะเลือดออก
การรับประทานบลูเบอร์รี่
- สามารถรับประทานบลูเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
- ควรเลือกซื้อบลูเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
- เก็บบลูเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์
2.ราสเบอร์รี่
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีแดง รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- ต้านอนุมูลอิสระ ราสเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดควาเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ราสเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในราสเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ย่อยอาหาร ราสเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
- ควบคุมน้ำหนัก ราสเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงกระดูก ราสเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- บำรุงเลือด ราสเบอร์รี่มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันภาวะเลือดออก
- บำรุงสายตา ราสเบอร์รี่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคตาแห้ง และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
- บำรุงสมอง ราสเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
- ลดการอักเสบ ราสเบอร์รี่มีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อ อักเสบ และโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบ
การรับประทานราสเบอร์รี่
- สามารถรับประทานราสเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
- ควรเลือกซื้อราสเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
- เก็บราสเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์
3.แบล็คเคอร์แรนท์
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีดำ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- ต้านอนุมูลอิสระ แบล็คเคอร์แรนท์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แบล็คเคอร์แรนท์มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
- บำรุงสายตา แบล็คเคอร์แรนท์มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
- บำรุงสมอง สารแอนโธไซยานินในแบล็คเคอร์แรนท์ ยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
- ลดความดันโลหิต แบล็คเคอร์แรนท์มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด แบล็คเคอร์แรนท์มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแบล็คเคอร์แรนท์ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ย่อยอาหาร แบล็คเคอร์แรนท์มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
- ควบคุมน้ำหนัก แบล็คเคอร์แรนท์มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงกระดูก แบล็คเคอร์แรนท์มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
การรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์
- สามารถรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
- ควรเลือกซื้อแบล็คเคอร์แรนท์ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
- เก็บแบล็คเคอร์แรนท์ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์
4.แบล็คเบอร์รี่
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีดำ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- ต้านอนุมูลอิสระ แบล็คเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
- บำรุงสายตา แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
- บำรุงสมอง แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
- ลดความดันโลหิต แบล็คเบอร์รี่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด แบล็คเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแบล็คเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ย่อยอาหาร แบล็คเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
- ควบคุมน้ำหนัก แบล็คเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงกระดูก แบล็คเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
การรับประทานแบล็คเบอร์รี่
- สามารถรับประทานแบล็คเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
- ควรเลือกซื้อแบล็คเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
5.แครนเบอร์รี่
เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีแดง รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
- ต้านอนุมูลอิสระ แครนเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
- ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แครนเบอร์รี่มีสาร Proanthocyanidins (PACs) ที่ช่วยป้องกันการยึดเกาะของเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli) บนผนังกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ลดการอักเสบ แครนเบอร์รี่มีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อ อักเสบ และโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบ
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแครนเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
- ย่อยอาหาร แครนเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
- ควบคุมน้ำหนัก แครนเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- บำรุงกระดูก แครนเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- บำรุงหัวใจ แครนเบอร์รี่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- บำรุงสมอง แครนเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แครนเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
การรับประทานแครนเบอร์รี่
- สามารถรับประทานแครนเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
- ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
- ควรเลือกซื้อแครนเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
- เก็บแครนเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์