Sunday, September 8, 2024
spot_imgspot_img

Top 5 This Week

spot_img

Related Posts

ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับอะไร ต้องกินยังไงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับอะไร เป็นคำถามที่ใครหลายๆคน กำลังหาคำตอบ ซึ่งคนที่ชอบทานทุเรียนก็คงเพลิดเพลิน กับทุกเรียนอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าทุเรียนนั้นห้ามทานคู่กับสิ่งเหล่านี้อย่างเด็ดขาดเพราะอาจมีผลเสียตามมา มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย 

ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับอะไร ต้องกินยังไงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ 2567

กรมอนามัย ได้ให้ข้อมูลไว้ดังนี้ “ทุเรียนไม่ควรกินกับอะไร”

1. ห้ามกินทุเรียนกับน้ำอัดลม
ทุเรียนกับน้ำอัดลมไม่ควรจะกินคู่กันสักเท่าไร เพราะทุเรียนเป็นผลไม้น้ำตาลสูง ไขมันสูง กินแล้วย่อยยาก ขณะที่น้ำอัดลมรสหวานก็มีน้ำตาลสูงมากและมีกรดคาร์บอนิก หากกินคู่กัน นอกจากจะทำให้แน่นท้อง ท้องอืดแล้ว ร่างกายจะได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากป่วยเป็นเบาหวาน หรือโรคหัวใจ ก็อาจถึงขั้นช็อกได้ แต่สำหรับคนปกติ การที่น้ำตาลสะสมในร่างกายมาก หากเผาผลาญได้ไม่หมดก็จะกลายเป็นไขมัน ทำให้อ้วนขึ้นได้ง่าย ๆ เลย

2. ห้ามกินทุเรียนกับลำไย
ลำไยและทุเรียนต่างก็เป็นผลไม้น้ำตาลสูง กินแล้วให้พลังงานมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้ร้อนในได้เหมือนกัน ดังนั้นทางที่ดีอย่ากินทุเรียนกับลำไยจะดีกว่า โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานที่จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด

3. ห้ามกินทุเรียนกับผลไม้น้ำตาลสูงอื่น ๆ
ผลไม้น้ำตาลสูงอย่างลิ้นจี่ เงาะ ขนุน มะม่วงสุก รวมไปถึงทุเรียน ก็ไม่ควรจับคู่กินด้วยกัน เนื่องจากร่างกายจะได้น้ำตาลในปริมาณสูงมาก ๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งหากไม่ได้เผาผลาญก็จะเก็บสะสมและกลายเป็นไขมันในร่างกาย หรือหากป่วยเป็นเบาหวานก็อาจมีอาการวูบ หมดสติได้

4. ไม่ควรกินทุเรียนกับขนมหวาน ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับอะไร
ปัญหาก็คือเรื่องปริมาณน้ำตาลอีกเช่นเคย ดังนั้นหากจะกินทุเรียนก็ควรเลี่ยงขนมหวาน ขนมปัง น้ำหวาน เบเกอรี่ทั้งหลายไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้น้ำตาลในปริมาณที่สูงจนเกินไป อ้อ ! เมนูเค้กทุเรียน ข้าวเหนียวทุเรียน ถ้าเลี่ยงได้ก็จะดี

5. ห้ามกินทุเรียนกับเหล้า
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเหล้า เบียร์ ไวน์ ไม่ควรนำมากินคู่กับทุเรียนเด็ดขาด เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และทุเรียนให้พลังงานสูง ส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายต้องทำงานหนัก ร่างกายก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น บวกกับแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ร่างกายจะขาดน้ำซึ่งทำให้ร่างกายร้อนมากขึ้น

นอกจากนี้ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกำมะถันมาก ซึ่งสารนี้ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ เมื่อกินคู่กันจะทำให้เมาเร็ว ร่างกายจะเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ และทำให้ขาดน้ำจนถึงจุดที่ระดับเกลือแร่ขาดสมดุลได้ อีกทั้งการกินทุเรียนกับเหล้าจะทำให้เอนไซม์กำจัดสารพิษที่ได้จากกระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์ลดลง

และอาจไปเสริมพิษของเหล้า นำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์ เช่น รู้สึกร้อนวูบวาบ หน้าแดง วิงเวียน สั่น ง่วงซึม คลื่นไส้ และอาเจียน ในบางรายอาจมีปฏิกิริยารุนแรงจนก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ หัวใจล้มเหลว สมองทำงานผิดปกติ จนก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้เลย โดยอาการจะรุนแรงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน และความสามารถของกระบวนการทำลายแอลกอฮอล์ในร่างกายของแต่ละคน

แม้ทุเรียนจะอร่อย มีประโยชน์ กินแล้วฟินไปถึงไหน แต่ก็ต้องห้ามใจให้กินเพียง 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ยิ่งทุกวันยิ่งไม่ควร เพราะนอกจากทุเรียนจะให้พลังงานสูง น้ำตาลสูงแล้ว หากกินบ่อย ๆ กินมาก ๆ อาจทำให้มีอาการร้อนในขึ้นมาได้

โรคที่ห้ามกินทุเรียน

แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรจำกัดการกินทุเรียนวันละไม่เกิน 1 เม็ดเล็ก ส่วนโรคไตควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนไปก่อน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้ เนื่องจากร่างกายขับโพแทสเซียมจากทุเรียนไม่ทันจนทำให้มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

นอกจากนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินข้าวเหนียวทุเรียน ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด ทุเรียนแปรรูปต่าง ๆ เพราะจะมีปริมาณน้ำตาลและให้พลังงานสูงกว่าทุเรียนสด ๆ หรือหากจะกินก็ควรกินแต่น้อย หมั่นออกกำลังกาย และวันไหนจะกินทุเรียนก็เลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพให้เยอะหน่อย ลดข้าว ลดแป้ง อาหารให้พลังงานสูงต่าง ๆ

ทุเรียน กินยังไงให้พอดี ไม่มีอันตราย

แม้ทุเรียนจะอร่อย มีประโยชน์ กินแล้วฟินไปถึงไหน แต่ก็ต้องห้ามใจให้กินเพียง 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ยิ่งทุกวันยิ่งไม่ควร เพราะนอกจากทุเรียนจะให้พลังงานสูง น้ำตาลสูงแล้ว หากกินบ่อย ๆ กินมาก ๆ อาจทำให้มีอาการร้อนในขึ้นมาได้

แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรจำกัดการกินทุเรียนวันละไม่เกิน 1 เม็ดเล็ก ส่วนโรคไตควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนไปก่อน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้ เนื่องจากร่างกายขับโพแทสเซียมจากทุเรียนไม่ทันจนทำให้มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ประโยชน์ของทุเรียน 2567

 1. กระตุ้นการขับถ่าย

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารค่อนข้างสูง โดยทุเรียนมีเส้นใยอาหารประมาณ 3-5% (แล้วแต่สายพันธุ์) อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้กินทุเรียนเพื่อหวังผลเรื่องกระตุ้นการขับถ่าย เพราะในทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันสูง เช่นเดียวกัน

     2. บำรุงสายตา

สีเหลืองของเนื้อทุเรียนอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะในพันธุ์ชะนีไข่ และพวงมณี มีเบต้าแคโรทีนสูงมาก มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก ชะลอการเสื่อมของกระจกตาในผู้สูงอายุได้ และทุเรียนยิ่งมีสีเข้มจะพบสารชนิดนี้ในปริมาณที่มากตามไปด้วย

     3. ช่วยบำรุงสมอง

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโฟเลต สารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหลงลืม อัลไซเมอร์ โดยจากการศึกษาพบว่า ทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์มีโฟเลตสูงประมาณ 120-150 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม หรือประมาณ 38% ของปริมาณโฟเลตที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว

     4. ช่วยขับพยาธิ          

สรรพคุณตามตำรับยาไทย เนื้อทุเรียนมีกำมะถันที่ให้ความร้อนแก่ร่างกาย บำรุงกำลัง ช่วยขับพยาธิไส้เดือน อีกทั้งใบทุเรียนยังมีสรรพคุณขับพยาธิได้อีกทาง แถมยังแก้ดีซ่านได้ด้วย

 


อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Popular Articles