Saturday, December 21, 2024
spot_imgspot_img

Top 5 This Week

spot_img

Related Posts

วิตามิน B3 ช่วยให้ผิวสวย ได้จริงหรือ ? 2567

วิตามิน B3 ช่วยให้ผิวสวย ได้จริงหรือ เป็นคำถามที่หลายๆ คนคงหาคำตอบกัน วันนี้เรามีคำตอบมาให้ไปติดตามกันได้เลย 

วิตามิน B3 ช่วยให้ผิวสวย ? 

ปัจจุบันเทรนด์การบริโภควิตามิน หรืออาหารเสริมที่ช่วยเสริมสร้างวิตามิน กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงานของคนไทย ซึ่งแต่ละคนจะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป

วิตามิน B3 วิตามินที่มีประโยชนสุดล้ำ

วิตามิน B3 หรือไนอะซิน เป็นหนึ่งในสมาชิกของครบครัววิตามินบีรวม โดย วิตามิน B3 มีประโยชน์ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ลดคอเลสเตอรอล ไขมัน ควบคุมน้ำตาลในเลือด ขยายหลอดเลือดเล็ก ๆ จะช่วยการไหลเวียนเลือด

ทั้งยังบรรเทาอาการข้ออักเสบ บรรเทาอาการโรคซึมเศร้าได้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท ช่วยให้ผิวหนังมีความสมบูรณ์ขึ้น และมีสุขภาพผิวดี สดใสไม่แห้งกร้าน

วิตามิน B3 ช่วยผิวไม่ให้แห้งกร้าน

วิตามิน B3 นอกจากมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว อีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญของวิตามิน B3 คือ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี สดใส ช่วยลดอาการน้ำคั่งในผิว เพิ่มความสดใสของผิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอขึ้น ซ่อมแซมและฟื้นฟูให้เกราะป้องกันความชุ่มชื้นของผิวทำงานได้เต็มที่เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้น

นอกอกจากนี้ยังเป็นคอลลาเจนธรรมชาติและส่งเสริมอีลาสตินซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน วิตามินบี 3 ยังช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ และเหมาะเป็นพิเศษสำหรับผิวที่แห้งหรือแพ้ง่าย

เห็นแบบนี้แล้ว หนุ่มๆ สาวๆ หลายคน คงกำลังหา วิตามิน B3 ทานกันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งอยากจะบอกว่าวิตามินในแต่ละชนิดนั้นมีประโยชน์ที่ต่างกัน และจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นถ้าเรารับทานวิตามินในแต่ละชนิดในปริมาณที่พอดีตามที่ร่างกายต้องการ

ย่างที่กล่าวไปแล้วว่าวิตามินบี 3 มีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว เพราะวิตามินบี 3 เป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื้อบุผิวต่าง ๆ ช่วยรักษาและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์และเนื้อเยื้อโดยเฉพาะเซลล์ผิว จึงมีผลต่อความชุ่มชื้นและเรียบเนียนของเซลล์ผิว นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสุขภาพดีมีน้ำมีนวลขึ้น ด้วยเหตุนี้วิตามินบี 3 จึงกลายมาเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ (active ingredient) ที่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรือเวชสำอางนิยมนำมาใช้ฟื้นฟูดูแลผิว

สารสกัดวิตามินบี 3 ในวงการสกินแคร์จะอยู่ในชื่อของ Niacinamide จัดเป็นวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวละเอียดขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบระคายเคืองผิว นอกจากนั้น Niacinamide ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ใต้ชั้นผิวช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอุ้มน้ำ ช่วยลดการเกิดผิวแห้งกร้านและหย่อนคล้อย ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยก่อนวัยได้ และยังมีประสิทธิภาพปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้นเป็นธรรมชาติ

นอกจากนั้นแล้ว Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ยังมีประสิทธิภาพช่วยลดความเสื่อมหรือความชราของเซลล์ผิวได้ โดยเฉพาะความเสื่อมของเซลล์ผิวที่เกิดจาก AGEs ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นระหว่างโมเลกุลของน้ำตาลกับสารชีวโมเลกุลชนิดอื่น ๆ ในชั้นผิว ส่งผลให้สาชีวโมเลกุลในร่างกายเปลี่ยนสภาพ คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวเสียโครงสร้างและถูกทำลาย ทำให้ผิวแห้งกร้าน หย่อนคล้อย ไม่ยกกระชับ ปัญหาที่ตามมาก็คือริ้วรอย ความหมองคล้ำ และกระ ฝ้า จุดด่างดำ

แต่ Niacinamide จะทำหน้าที่เป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ไม่ให้โมเลกุลของน้ำตาลเข้าทำปฏิกิริยากับสารชีวโมเลกุลชนิดอื่น ๆ ในชั้นผิว จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ให้ผิวยกกระชับเต่งตึงและกระจ่างเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

ปริมาณที่เหมาะสมและเกิดผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญทางการรักษาก็คือ Niacinamide เข้มข้นตั้งแต่ 2% ขึ้นไป มีผลการวิจัยรองรับว่า Niacinamide 2% ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กลับมามีสุขภาพดีขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ต้องดูปริมาณที่เหมาะสมด้วยจะได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างน่าพอใจ

สารสกัด Niacinamide สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย นอกจากนั้นยังนิยมใช้ Niacinamide ร่วมกับสารสกัดพวก Benzoyl Peroxide ในกลุ่มยาลดสิว รวมไปถึงเรตินอล เพราะจะช่วยลดผลข้างเคียงแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

วิตามินบี 3 พบได้ที่ไหนบ้าง?

วิตามินบี 3 นั้นพบได้ในไข่ไก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ตับ ยีสต์ ธัญพืช อะโวคาโด อินทผลัม ลูกพรุน เป็นต้น นอกจากนั้นร่างกายก็สามารถสั่งเคราะห์วิตามินบี 3 ขึ้นเองได้จากกรดอะมิโนทริพโตเฟนที่ได้จากการรับประทานเนื้อสัตว์และโปรตีนประเภทต่าง ๆ โดยปริมาณของวิตามินบี 3 ที่เพียงพอจากการรับประทานจะอยู่ที่ 6-19 มิลลิกรัม ต่อวัน ซึ่งหากรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 3 อีกทั้งรับประทานครบห้าหมู่และหลากหลายก็จะได้รับวิตามินบี 3 ที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

ส่วนอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมวิตามินบี 3 ก็คือการใช้ตัวช่วยในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ซึ่งก็จะมีในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินบีรวมที่ส่วนใหญ่จะมีไนอะซินหรือวิตามินบี 3 อยู่ด้วยประมาณ 50-500 มิลลิกรัม หรือในอีกรูปแบบหนึ่งก็จะมาในสกินแคร์สำหรับทาบำรุงผิว ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดูแลผิวจากภายนอกเป็นหลัก ช่วยในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์และเนื้อเยื้อผิว ต่างจากการรับประทานที่จะช่วยเสริมสร้างและดูแลจากภายใน

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม คลิก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Popular Articles