Friday, November 22, 2024
spot_imgspot_img

Top 5 This Week

spot_img

Related Posts

เบอร์รี่ 9 ชนิด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม มีอะไรบ้าง

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม นั้นมีหลายอย่างมาก เนื่องจากเบอร์รี่หลายชนิดมีประโยชน์มาก ทั้งในเรื่องของวิตามินที่สูง ยังมีในเรื่องของการช่วยในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย ทั้งในด้านสายตา ดังนั้นวันนี้เรานั้นได้รวบรวมเบอร์ที่ฮิตและประโยชน์เยอะมาฝากอกด้วย

เบอร์รี่ 9 ชนิด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม มีอะไรบ้าง

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม

1.บลูเบอร์รี่

เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีม่วงเข้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. บำรุงสายตา บลูเบอร์รี่มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  2. บำรุงสมอง สารแอนโธไซยานินในบลูเบอร์รี่ ยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
  3. ต้านอนุมูลอิสระ บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
  4. ป้องกันโรคหัวใจ บลูเบอร์รี่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เพิ่มระดับไขมันดี HDL ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บลูเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
  6. บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในบลูเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  7. ย่อยอาหาร บลูเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
  8. ควบคุมน้ำหนัก บลูเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  9. บำรุงกระดูก บลูเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  10. บำรุงเลือด บลูเบอร์รี่มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันภาวะเลือดออก

การรับประทานบลูเบอร์รี่

  • สามารถรับประทานบลูเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
  • ควรเลือกซื้อบลูเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
  • เก็บบลูเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์

 

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม

2.ราสเบอร์รี่

เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีแดง รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. ต้านอนุมูลอิสระ ราสเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดควาเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
  2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ราสเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
  3. บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในราสเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  4. ย่อยอาหาร ราสเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
  5. ควบคุมน้ำหนัก ราสเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  6. บำรุงกระดูก ราสเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  7. บำรุงเลือด ราสเบอร์รี่มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ป้องกันภาวะเลือดออก
  8. บำรุงสายตา ราสเบอร์รี่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคตาแห้ง และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  9. บำรุงสมอง ราสเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
  10. ลดการอักเสบ ราสเบอร์รี่มีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อ อักเสบ และโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบ

การรับประทานราสเบอร์รี่

  • สามารถรับประทานราสเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
  • ควรเลือกซื้อราสเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
  • เก็บราสเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์

 

 

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม

3.แบล็คเคอร์แรนท์

เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีดำ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. ต้านอนุมูลอิสระ แบล็คเคอร์แรนท์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
  2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แบล็คเคอร์แรนท์มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
  3. บำรุงสายตา แบล็คเคอร์แรนท์มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  4. บำรุงสมอง สารแอนโธไซยานินในแบล็คเคอร์แรนท์ ยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
  5. ลดความดันโลหิต แบล็คเคอร์แรนท์มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด แบล็คเคอร์แรนท์มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
  7. บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแบล็คเคอร์แรนท์ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  8. ย่อยอาหาร แบล็คเคอร์แรนท์มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
  9. ควบคุมน้ำหนัก แบล็คเคอร์แรนท์มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  10. บำรุงกระดูก แบล็คเคอร์แรนท์มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

การรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์

  • สามารถรับประทานแบล็คเคอร์แรนท์สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
  • ควรเลือกซื้อแบล็คเคอร์แรนท์ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
  • เก็บแบล็คเคอร์แรนท์ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์

 

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม

4.แบล็คเบอร์รี่

เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีดำ รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. ต้านอนุมูลอิสระ แบล็คเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
  2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
  3. บำรุงสายตา แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ชะลอการเกิดต้อกระจก และช่วยให้มองเห็นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  4. บำรุงสมอง แบล็คเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
  5. ลดความดันโลหิต แบล็คเบอร์รี่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด แบล็คเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
  7. บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแบล็คเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  8. ย่อยอาหาร แบล็คเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
  9. ควบคุมน้ำหนัก แบล็คเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  10. บำรุงกระดูก แบล็คเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

การรับประทานแบล็คเบอร์รี่

  • สามารถรับประทานแบล็คเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
  • ควรเลือกซื้อแบล็คเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ

 

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อสุขภาพยอดนิยม

5.แครนเบอร์รี่

เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีแดง รสเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  1. ต้านอนุมูลอิสระ แครนเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
  2. ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แครนเบอร์รี่มีสาร Proanthocyanidins (PACs) ที่ช่วยป้องกันการยึดเกาะของเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli) บนผนังกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  3. ลดการอักเสบ แครนเบอร์รี่มีสารต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดข้อ อักเสบ และโรคต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบ
  4. บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในแครนเบอร์รี่ ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
  5. ย่อยอาหาร แครนเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
  6. ควบคุมน้ำหนัก แครนเบอร์รี่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  7. บำรุงกระดูก แครนเบอร์รี่มีแมงกานีสสูง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

 

  1. บำรุงหัวใจ แครนเบอร์รี่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด
  2. บำรุงสมอง แครนเบอร์รี่มีวิตามินบี6 สูง ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาท
  3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แครนเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

การรับประทานแครนเบอร์รี่

  • สามารถรับประทานแครนเบอร์รี่สด แช่แข็ง แห้ง หรือแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม หรือเยลลี่
  • ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1/2 – 1 ถ้วย
  • ควรเลือกซื้อแครนเบอร์รี่ที่มีผลสด ผิวเรียบ ไม่มีรอยช้ำ
  • เก็บแครนเบอร์รี่ในตู้เย็นได้นานถึง 1 อาทิตย์

 

 


 

อ่านบทความเพิ่มเติม คลิก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

Popular Articles