การชาร์จมือถือ ทิ้งไว้ต่อเนื่องโดยไม่ถอดออก อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงได้ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้แบตเตอรี่ไม่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคต การชาร์จโทรศัพท์อยู่ในสถานะเช่นนี้อาจทำให้แบตเตอรี่ทำงานในสภาวะที่ร้อนเกินไปหรือชาร์จเกินจำเป็น
ทั้งนี้อาจทำให้ลำแสงไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลดลง เมื่อใช้งานหรือชาร์จไม่ได้ จึงสามารถทำให้แบตเตอรี่สภาพเสื่อมลง การทิ้งชาร์จไม่ใช้งานในระยะเวลายาวๆ อาจทำให้เกิดการระเบิดในกรณีที่มีปัญหาอื่นๆ ดังนั้น แนะนำให้ถอดชาร์จออกจากโทรศัพท์เมื่อไม่ได้ใช้งาน และเก็บที่อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เพื่อรักษาสภาพของแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และยังช่วยให้ใช้งานโทรศัพท์ได้นานขึ้นด้วย
การดูแลและรักษาแบตเตอรี่มือถืออย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ ดังนี้:
- หลีกเลี่ยงการชาร์จเกิน: อย่าให้แบตเตอรี่เต็มเต็มมากเกินไปหรือเต็มตลอดเวลา เพราะการชาร์จเกินจำเป็นจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานในสภาพอุณหภูมิที่สูงเกินไปและสามารถทำให้เสื่อมลงได้ พยายามเช็คแบตเตอรี่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมและถอดชาร์จออกเมื่อเต็มแล้วหรือใช้เต็มที่
- ปรับระดับความสว่างของหน้าจอ: การลดระดับความสว่างของหน้าจออาจช่วยลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ได้ ใช้สมาร์ทโฟนในระดับความสว่างที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- ปิดการทำงานของแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน: การใช้แอปพลิเคชันหลายตัวพร้อมๆ กันอาจทำให้แบตเตอรี่หมดไปเร็วขึ้น ปิดการทำงานของแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ในขณะนั้น เพื่อลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่
- อย่าให้แบตเตอรี่ร้อน: ควรเก็บสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ในที่ที่ไม่มีแสงแดดตรง เพราะแสงแดดสามารถทำให้แบตเตอรี่ทำงานอย่างไม่เป็นปกติ
- อัปเดตและดูแลซอฟต์แวร์: อัปเดตแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์เป็นประจำ เนื่องจากการอัปเดตอาจมีการปรับปรุงให้แบตเตอรี่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เก็บแบตเตอรี่ในสภาพอุณหภูมิที่เหมาะสม: ให้เก็บแบตเตอรี่ในสภาพอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิห้อง และหลีกเลี่ยงการเก็บในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป
- อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมด: ควรระมัดระวังถ้าแบตเตอรี่เริ่มหมดพลังงานบ่อยๆ หรือมีอาการดับ อาจเป็นเครื่องหมายว่ามันกำลังเสื่อมลง
การดูแลแบตเตอรี่มือถืออย่างดีสามารถช่วยให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานขึ้นโดยไม่มีปัญหาในการใช้งาน